ล็อกเก็ต - 'สมุดแห่งความทรงจำเล่มเล็ก'
หลายๆ คนคงเคยผ่านตากับจี้ห้อยคอบานพับ ที่สามารถใส่รูปภาพเล็กๆ หรือที่เราเรียกกันว่า ‘จี้ล็อกเก็ต’ กันมาบ้างแล้ว แต่ทราบหรือไม่ว่าจี้ล็อกเก็ตนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร มีต้นกำเนิดมาจากไหน วันนี้ Gemondo จะมาเล่าให้ฟังค่ะ
คำว่า ‘Locket’ มาจากภาษาฝรั่งเศส ‘Loquet’ ซึ่งแปลว่าแม่กุญแจขนาดจิ๋ว ล็อกเก็ตชิ้นแรกคาดการณ์กันว่าน่าจะถูกทำขึ้นในสมัยยุคกลาง เพื่อใช้พกพาเพื่อเป็นเครื่องรางเพื่อปกป้องผู้สวมใส่ ซึ่งล็อกเก็ตในยุคแรกนั้นถูกทำขึ้นด้วยโลหะและมีช่องสำหรับเก็บสิ่งของขนาดเล็ก เช่น เส้นผม ฟัน หรือคำอธิฐาน นิยมสวมใส่เป็นจี้บนสร้อยคอ หรือสร้อยข้อมือ
ต่อมาในช่วงยุคเรอเนสซองส์ ล็อกเก็ตได้ถูกพัฒนาให้มีความสวยงามประณีตมากยิ่งขึ้น มีการขึ้นตัวเรือนด้วยโลหะมีค่า บางครั้งมีการประดับด้วยอัญมณีหรืออีนาเมล ล็อกเก็ตในยุคสมัยนี้ถูกดีไซน์เพื่อใส่ภาพวาดบุคคลขนาดจิ๋ว ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นผู้มั่งคั่ง
ในยุควิกตอเรียเป็นช่วงที่ล็อกเก็ตได้รับความนิยมสูงสุด ผู้คนสมัยนั้นนิยมสวมใส่ล็อกเก็ตเป็นเครื่องประดับ และมักถูกมอบให้เป็นของขวัญระหว่างคนรัก สมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนฝูง ล็อกเก็ตในยุคนี้มักทำจากทองหรือเงิน และถูกแกะสลักด้วยลวดลายที่ประณีต เช่น ลายดอกไม้ หัวใจ หรือไม้กางเขน ล็อกเก็ตในสมัยวิกตอเรียยังมีช่องลับเล็กๆ ที่สามารถใช้เก็บธนบัตรอีกด้วย
ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2 ล็อกเก็ตได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากทหารมักจะพกติดตัวไว้เพื่อระลึกถึงบุคคลอันเป็นที่รักขณะที่พวกเขาต่อสู้ในสงคราม มีการมอบล็อกเก็ตให้กับทหารเพื่อเป็นการรำลึกถึงสหายที่ล่วงลับไปแล้ว
ปัจจุบันล็อกเก็ตยังคงเป็นเครื่องประดับที่ยังได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย ผู้คนยังนิยมมอบเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษแก่คนพิเศษ
ถ้าคุณกำลังมองหาจี้ล็อกเก็ตสุดคลาสสิก Gemondo ขอนำเสนอคอลเล็กชั่น 'Bona Fide' สร้อยคอพร้อมจี้ล็อกเก็ตในคอนเซ็ปต์ 'สมุดแห่งความทรงจำเล่มเล็ก' ที่พร้อมเก็บความทรงจำอันแสนพิเศษของคุณไว้ใกล้หัวใจที่สุด
คอลเล็กชั่นนี้โดดเด่นด้วยจี้ล็อคเก็ตดีไซน์รูปทรงเรขาคณิตบนตัวเรือนเงิน 925 Sterling Silver ประดับด้วยอัญมณีหลากหลายสี ได้แก่ มาลาไคต์, นิล, ลาพิส ลาซูรี และมาเธอร์ออฟเพิร์ล เหมาะกับการมอบเป็นของขวัญให้แก่คนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก เสมือนเป็นตัวกลางในการเก็บความทรงจำดีๆ ที่ไม่มีวันเลือนหาย